ค่า Viral Load
ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBV viral load) 2, 000 ฿ รอผล 14 วัน ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBV viral load, HBV DNA PCR) ค่าบริการ 2, 000 บ. รอผล 14 วัน ไม่ต้องอดอาหาร ก่อนเจาะเลือด ใช้ตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ในเลือด เพื่อตรวจติดตามการรักษา กรณีต้องการทราบว่า ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือไม่ แนะนำให้ตรวจด้วยวิธี HBs Ag (ค่าบริการ 200 บ. รอผล 20 นาที) ใช้เวลาเจาะเลือดประมาณ 10 นาที (เจาะเลือดเสร็จ กลับได้) บริการส่งผลให้ทาง Email / Line มีนักเทคนิคการแพทย์ อธิบายผลตรวจให้ โปรดนัดหมาย จองคิวล่วงหน้า สามารถนัดหมายได้ทาง Line ID: @cmflab / หน้าเพจ Facebook / 053-271415, 083-945-9142 คลินิกอยู่แถวช้างคลาน อ. เมือง จ. เชียงใหม่ (มีสาขาเดียว)
In english
Chronic viral hepatitis B ตับอักเสบ บีเรื้อรัง การรักษาไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง สรุป Practice guideline for management 2555 สำหรับตับอักเสบบี จากสมาคมโรคตับ แห่งประเทศไทย Chronic viral hepatitis B คือ ภาวะที่ตรวจพบ HBsAg ให้ผลบวก หากพบ HBsAg แล้วให้ตรวจเลือดเพิ่มดังนี้ 1. ตรวจเพื่อประเมินภาวะโรค: HBeAg, Anti-HBe และ HBV DNA 2. ตรวจดูการทำงานของตับ: ALT ทุก 3-6 เดือน 3. ตรวจประเมินระยะโรคตับ ด้วย ultrasound หรือ วัด liver stiffness ด้วย transient elastography ข้อบ่งชี้การรักษา ผู้ที่มี HBeAg positive และมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ Negative และมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังนี้ 1. พบ HBsAg ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน 2. ปริมาณ HBV DNA ≥ 20, 000 IU/ml DNA ≥ 2, 000 IU/ml ( ***ต่างกันข้อเดียว) 3. ALT ≥ 2 เท่าของค่าปกติ อย่างน้อย 2 ครั้ง ในระยะเวลานานกว่า 3 เดือน 4. ALT จะปกติ แต่พบลักษณะ Hepatic Fibosis stage 3-4 หรือ มีอาการทางคลินิกที่จะเกิดภาวะ hepatic decompensation ร่วมกับพบ HBV DNA ผิดปกติสูงน้อยกว่า 2 เท่าของค่าปกติ ควรทำ liver biopsy เพื่อยืนยันว่า การอักเสบเกิดจากการติดเชื้อ HBV จริง ควรให้การรักษาเมื่อมีลักษณะทางพยาธิ หรือ ความยืดหยุ่นตับเสียไป ข้อไดข้อหนึ่งดังนี้ - พบ necroinflammation ตามระบบ HAI ≥ 4 หรือ ระบบ Metavir ≥ 2 Significant fibrosis ตาม Metavir ≥2 หรือ ระบบ Ishak ≥ 3 ความยืดหยุ่นของตับสูงกว่า 7 kPa (liver stiffness) 6.
กรณี HBeAg positive 1. 1 ดู HBeAg - และ HBeAb + ร่วมกับ HBV DNA - รักษาจน HBeAg เป็นลบและ HBeAb positive (HBe seroconversion) ร่วมกับ ตรวจไม่พบ HBV DNA ให้กินยาต่อไปอีก 1 ปี หรือ 1. 2 ดู HBeAg - ร่วมกับ HBV DNA -รักษาจน HBeAg negative กับ HBV DNA<60IU/ML 2ครั้ง อย่างน้อย 6 เดือนติด 2. กรณี HBeAg negative ดู HBsAG กับ HBV DNA ให้กินยาจน HBsAg ตรวจไม่พบและ HBV DNA 3 ครั้ง ห่างกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน 3. รักษาไม่ได้ผลด้วย interferon หรือ เป็นซ้ำหลังหยุดกินยา การ Follow ผู้ป่วยหลังการรักษา 1. ระหว่างการรักษา -ALT อย่างน้อยทุก 3 เดือน -HBeAg/HBeAb( กรณีที่พบมาก่อน), HBV DNA และ HBsAg อย่างน้อยทุก 6 เดือน -กรณีที่ได้ interferon ควรตรวจ ALT ทุก 2 wk ใน 2 m แรก และทุก 4-6 wk จนสิ้นสุดการรักษา และ ตรวจอื่นๆ เช่น CBC, thyroid function test etc. -กรณีที่ได้ adefovir, tenofovir ควรตรวจ Cr, phosphosrus เป็นระยะ - lamivudine, telbivudine, entecavir ควรตรวจยืนยันภาวะ myopathy กรณีที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ 2. เมื่อสิ้นสุดการรักษา - ALT q 3 m - HBeAg/HBeAb( กรณีที่พบมาก่อน), HBV DNA q 6 m หาก ALT ปกติ และ HBV DNA ต่ำ อย่างน้อย 6 เดือน ควรตรวจติดตามทุก 3-6 เดือน กรณีดื้อยา คือ HBV DNA เพิ่มขึ้น ≥ 1 log หรือ กลับมาตรวจพบ HBV DNA ในเลือดแม้ว่าจะกินยาสม่ำเสมอ 1.
Video
0 log มีค่าเท่ากับ 10, 2. 0 log มีค่าเท่ากับ 10 ยกกำลัง 2 ซึ่งก็คือ 100, 3. 0 log จะเท่ากับ 1000, 4. 0 log จะเท่ากับ 10000 และ 5. 0 log จะเท่ากับ 100000 หากผู้ป่วยมีค่า 3. 5 log ก็หมายความว่ามีปริมาณไวรัสมากกว่า 3.
08 ต. ค.
ยง 28 มิย 60 การรักษาไวรัสตับอักเสบบี การติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบบี แบบเรื้อรัง หรือพาหะ มีโอกาสที่จะเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี แบบเรื้อรังหรือเป็นพาหะ ทุกรายควรได้รับการดูแล และรักษา โดยทั่วไป 1. ถ้าไวรัสตับอักเสบ บี ไม่คุกคามตับ เราจะไม่ให้ยาเพื่อทำการรักษา เปรียบเสมือนต่างคนต่างอยู่ ไวรัสบีก็อยู่ของเขา เราก็อยู่ของเรา ถ้าเขาไม่คุกคามเราเรา ก็คงไม่ทำอะไร 2. ในกรณีที่ไวรัสตับอักเสบ บี คุกคามตับ เราจำเป็นต้องให้การรักษา การรักษาไวรัสตับอักเสบ บี จะขึ้นอยู่กับอายุ ของผู้ป่วย การคุกคามตับมากหรือน้อย ยาที่ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบ บี จะมีทั้งยาฉีด ได้แก่ อินเตอร์เฟอลอน และ ยากินต้านไวรัส คล้ายกับยากิน ต้านไวรัสในผู้ป่วยโรคเอดส์ 1. ในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย และ อยู่ในภาวะที่ไวรัสคุกคาม แพทย์จะเสนอ ใช้ยาฉีด เพราะยาฉีดมีกำหนดการรักษา ที่แน่นอน ยาฉีดจะไปช่วยภูมิต้านทานของร่างกายของเรา ให้ไวรัสตับอักเสบบี ไม่ให้คุกคามตับ สำหรับยากินโดยทั่วไปแล้ว จะกดไวรัสตับไม่ให้เพิ่มจำนวนได้ ไวรัสก็จะยังคงอยู่ในตับแต่มีปริมาณที่น้อยมาก เราไม่สามารถที่จะกำจัดไวรัสให้หมดไป จากร่างกายของเราได้ ดังนั้นยากินจึงจำเป็นจะต้องกินตลอดไป ***ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถที่จะมีการบอกได้แน่ชัดว่า จะหยุดยาได้เมื่อไหร่ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อหยุดยาแล้ว ไวรัสก็จะเพิ่มจำนวนกลับขึ้นเหมือนเดิม 2.
Index
- ไฟ แฟลช led
- ค่า viral load in nj
- ค่า viral load definition
- โป๊ยเซียน แคระ ความ หมาย
- ค่า viral load video
ALT ปกติ แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับเรื้อรัง ผู้ชาย, อายุมากกว่า 40 ปี, มีประวัติตับแข็งหรือมะเร็งตับในครอบครัว -ตรวจพบลักษณะ chronic liver stigmata ควรทำ liver biopsy เพื่อยันยันว่า ตับนั้นอยู่ในระยะที่ควรรักษา ดังข้อที่ 5 ข้อแนะนำ 1. งดดื่มแอลกอฮอล์ 2. ตรวจ HCV Ab, HAV Ab และ HIV Ab ทุกรายก่อนการรักษา ยาที่ใช้รักษา 1. Immunomodulators กระตุ้นภูมิให้กำจัดเชื้อ เป็นยาฉีด -Conventional interferon α 5-10mu sc 3time/wk * 6m -Pegylated interferon α-2a sc 180mcg 1time/wk or -Pegylated interferon α-2b sc 1. 5 mcg/kg 1time/wk *12 m ควรใช้กรณีผู้ป่วยอายุน้อย และ ALT สูง ไม่ควรใช้กรณีที่เป็น decompesated cirrhosis คือ ตับแข็งมากแล้ว cleoside ยากิน **Entecavir 0. 5 mg od ควรใช้ตัวนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา Telbivudine 600 mg od ยานี้เสี่ยงต่อการดื้อยาสูง Lamivudine 100-150 mg od ยานี้เสี่ยงต่อการดื้อยาสูง cleotide ยากิน **Tenofovir 300 mg od ควรใช้ตัวนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการดื้อยา Adefovir 10 mg od การดื้อยา หากดื้อยา telbivudine หรือ lamivudine ให้เพิ่ม adefovir หรือ tenofovir ร่วมด้วย หรือให้ tenofovir อย่างเดียวเลย การหยุดการรักษา 1.