ทํา น้ํา หมัก
ด. 2 ก็ได้มาจากพัฒนาที่ดิน (แจกฟรี) หลังจากนั้นสมาชิกกลุ่มจะมาช่วยกันทำ พอเป็นปุ๋ยน้ำหมักที่สามารถนำไปใช้ได้แล้ว ใครมีความต้องการที่จะใช้ปุ๋ยก็สามารถมาเอาไปใช้ได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้กับสวนลองกอง (เนื่องจากหมู่บ้านนี้มีสวนลองกองมาก) ซึ่งใช้แล้วก็ได้ผลดีและเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องปุ๋ยได้ (ลืมบอกว่าในการหมักจะต้องมีการคนปุ๋ยน้ำหมักทุกวัน กลุ่มจะมีการแบ่งคนรับผิดชอบในแต่ละวันแต่ส่วนใหญ่แล้วผมจะเป็นไปคนแทบทุกวันเพราะอยู่ใกล้บ้าน)โดยจะขอแนะนำการทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ สูตรฮอร์โมนผลไม้ ดังนี้ ส่วนประกอบ - เศษผักหรือผลไม้ ได้แก่ มะละกอ ฟักทอง กล้วยน้ำว้า ชมพู่ สับปะรด 40 ก. ก - กากน้ำตาล 10 ก. ก. - พ. 2 1 ซอง - น้ำสะอาด 10 ลิตร วิธีทำ - ละลาย พ. 2 1 ซอง ในน้ำ 1 ถัง (10 ลิตร) คนให้เข้ากันประมาณ 15 นาที (โดยต้องคนตลอดเวลา) - หั่นผลไม้ทั้งหมดเป็นชิ้นเล็กๆ (หั่นทั้งเปลือก) ถ้าหั่นยิ่งเล็กมากยิ่งดี เพราะจะมีการย่อยสลายได้เร็ว - นำผลไม้ที่หั่นแล้วมาคลุกกากน้ำตาลให้เข้ากัน - จากนั้นเท พ.
- ทำใช้เอง..น้ำหมักเปลือกมังคุดป้องกันและกำจัดเชื้อรา – clippenkhao
- การทำน้ำหมักปลาชีวภาพ แบบละเอียด เร่งใบเขียว ติดดอกดี เร่งขยายผล - YouTube
ทำใช้เอง..น้ำหมักเปลือกมังคุดป้องกันและกำจัดเชื้อรา – clippenkhao
สวัสดีครับกลับมาพบกันอีกครั้งกับเว็บไซต์ของเราศูนย์รวมไอเดียเกษตร ที่มีเรื่องราวเกษตรมากมายมานำเสนอผู้อ่านสำหรับเป็นความรู้ ในวันนี้เรามีบทความดีๆมาฝากกันเช่นเดิมครับ วันนี้จะพาไปดูการทำน้ำหมักให้ง่ายๆสำหรับใช้ไล่ศัตรูพืชและเเมลงต่างๆ โดยใช้ใบสาบเสือและใบเตย ด้วยธรรมชาติปลอดสารพิษ เทคนิคนี้เป็นผลงานของ อ.
น้ำหมักชีวภาพจากพืช แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ – จำพวกที่ใช้ผัก และก็เศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรหลังการเก็บ และคัดผลิตผล น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมหวน ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค และก็ฮอร์โมนโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี – ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครัวเรือน ตัวอย่างเช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าจำพวกแรก และก็มีกลิ่นหอมหวนน้อยกว่า บางคราวอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างเล็กน้อย จำต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม 2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆตัวอย่างเช่น เนื้อปลา เนื้อหอย ฯลฯ น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น จำเป็นต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม 3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช แล้วก็เนื้อสัตว์รวมกัน ส่วนมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก ลักษณะน้ำหมักชีวภาพที่หมักสมบูรณ์ 1. น้ำหมักชีวภาพมีลักษณะสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มใส ไม่ขุ่นดำ น้ำหมักจะอยู่ส่วนบน ส่วนกากจะตกลงด้านล่าง 2. น้ำหมักชีวภาพไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แม้กระนั้นจะมีกลิ่นหอมยวนใจราวกับเหล้าหมักหรือมีกลิ่นของกากน้ำตาล และก็กลิ่นเหม็นเปรี้ยว 3.
ชื่อโครงงาน: Project Title: น้ำหมักผลไม้ชีวภาพ Tropical Fruit Bio Extract ชื่อนักศึกษา: Author: นายชวัฒน์ สิมานันท์ Mr. Chawat Simanant อาจารย์ที่ปรึกษา: Advisor: อาจารย์ยุวริน ศรีปาน Ms. Yuvarin Sripan ระดับการศึกษา: Degree: ศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ. บ. ) Bachelor of Arts (Liberal Arts) ภาควิชา: Major: อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ Tourism and Hospitality Industry คณะ: Faculty: ศิลปศาสตร์ Liberal Arts ภาคการศึกษา/ปีการศึกษา: Semester / Academic year: 2/2562 2/2019 การอ้างอิง/citation ชวัฒน์ สิมานันท์. (2562). น้ำหมักผลไม้ชีวภาพ. (สหกิจศึกษา). กรุงเทพฯ: คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม.
2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม) ใช้หมักได้ 50 ลิตร • น้ำหมักชีวภาพ สูตร 2 หมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ ปริมาณ 50 ลิตร (หมัก 224 ชั่วโมง) – ปลา 3 ส่วน – กากน้ำตาล 1 ส่วน – ผลไม้ 1 ส่วน – น้ำ 1 ส่วน – สารเร่ง พด. 6 หรือ พด. 2 ปริมาณ 1 ซอง (25 กรัม) • น้ำหมักชีวภาพ สูตร น้ำหมักผลไม้ ส่วนประกอบ ฟักทอง 1 ผล (3-4 กก. ) กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี สัปปะรด 1 ลูก มะละกอสุก 1 ลูก กากน้ำตาล 1 ลิตร น้ำ 20-30 ลิตร ถังหมักขนาด 50 ลิตร • กระบวนการทำน้ำหมักผลไม้ 1. สับผลไม้แต่ละประเภทตามภาพ โดยไม่ต้องสับละเอียดมาก เนื่องจากว่าจะก่อให้เวลากรองเอากากออกทำเป็นยาก 2. เอาผลไม้ที่สับเสร็จแล้วลงในถังหมักที่ได้ตระเตรียมไว้ 3. เพิ่มกากน้ำตาลแล้วก็เติมน้ำดื่มตามลงไป แล้วกวนทุกๆอย่างให้เข้ากันเพื่อให้กากน้ำตาลละลายปิดฝาถัง 4. หมักในช่วงเวลา 2 อาทิตย์ ให้มีการเปิดกวนอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง 5.
การทำน้ำหมักปลาชีวภาพ แบบละเอียด เร่งใบเขียว ติดดอกดี เร่งขยายผล - YouTube
การหมักแบบอยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่อยากออกซิเจนสำหรับกรรมวิธีการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน รวมทั้งอาหารให้แก่เซลล์ การหมักดองประเภทนี้จะกำเนิดน้อยในขั้นตอนหมักน้ำหมักชีวภาพ แล้วก็มักกำเนิดในระยะแรกของการดอง แต่ว่าเมื่อออกซิเจนในน้ำ และอากาศหมด จุลินทรีย์แบบใช้ออกซิเจนจะต่ำลง และหมดไปจนกระทั่งเหลือเฉพาะการหมักดองจากจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจน 2. การดองแบบไม่ต้องการที่จะอยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์จำพวกที่ไม่อยากออกซิเจนสำหรับขั้นตอนการสลายตัวสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน และก็อาหารให้แก่เซลล์ การดองประเภทนี้จะกำเนิดเป็นส่วนมากในกรรมวิธีหมักน้ำหมักชีวภาพ สินค้าที่ได้เป็น คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ส่วนพวกเมอเคปเทนรวมทั้งก๊าซซัลไฟด์ปล่อยออกมาเล็กน้อย วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจะเลือกใช้วัสดุใดในการหมักนั้น ควรจะเลือกใช้วัสดุหมักซึ่งสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน แปลงเกษตรของตัวเองหรือหาได้ง่ายในแคว้น ท่อนหัวเชื้อสามารถเลือกใช้สารเร่งพด. 2 หรือ พด. 6 ตามจุดมุ่งหมายสำหรับเพื่อการนำไปใช้เป็นหลัก • น้ำหมักชีวภาพ สูตร 1 หมักจากผักรวมทั้งผลไม้ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 7 วัน) – ผัก หรือผลไม้ 4 ส่วน เช่น 40 กิโลกรัม – กากน้ำตาล 1 ส่วน เป็นต้นว่า 10 ลิตร – น้ำ 1 ส่วน เช่น 10 ลิตร – สารเร่ง พด.
- ทําน้ําหมักมูลไส้เดือน
- วิธีทำน้ำหมักผลไม้ | ออร์แกนิคฟาร์ม
- นาฬิกา michael kors access denied
- การทำน้ำหมักปลาชีวภาพ แบบละเอียด เร่งใบเขียว ติดดอกดี เร่งขยายผล - YouTube
- ทําน้ําหมักจุลินทรีย์
- วิธีทำน้ำหมักผลไม้ (EM) สำหรับใช้ในการทำเกษตร - YouTube
- 240 นางฟ้า แท้ ปลอม
- Rude boy แปล
- กฎหมายเพื่อความสุข ทนายธีรวัฒน์ นามวิชา : โดนยึดทรัพย์ โดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน โดนบังคับคดี ต้องทำอย่างไร
- พบกับ OnePlus 11.11 Mega Sale ลดกระหน่ำสูงสุด 80% พร้อมคูปองลดเพิ่มสูงสุด 1,111.-
- Chori - วิกิพจนานุกรม
- ศูนย์ มือ ถือ samsung
6 กก. ต่อไร่ คิดเป็นผลผลิตเพิ่ม 69% ลดต้นทุนการผลิตได้ 1, 360 บาทต่อข้าว 1 ตัน (ลดลง 37. 06%) และการปลูกข้าวโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์มูลสุกรจะให้ผลผลิตสูงกว่าใช้ปุ๋ยเคมี โดยได้ผลผลิตเฉลี่ยถึง 1-1.
ซื้อมังคุดมากิน เปลือกอย่าทิ้ง นำมาทำน้ำหมักป้องกันและกำจัดเชื้อราได้ ซื้อมังคุดมากิน เปลือกไม่ทิ้งนำมาทำน้ำหมัก เปลือกมังคุดมีสารแทนนินและสารแซนโทน ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้ง ป้องกันและกำจัดเชื้อราได้ ขับไล่แมลงศัตรูพืช 1. เปลือกมังคุด 3 ส่วน หั่นชิ้นเล็ก ๆ 2. กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน 3. น้ำสะอาดพอท่วม นำเปลือกมังคุดและน้ำตาล กวนให้เข้ากัน ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ วิธีใช้ น้ำหมักเปลือกมังคุด 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7 วันเพื่อป้องกันเชื้อรา และฉีดพ่นทุก 3 วัน ในกรณีเกิดโรค ฉีดพ่นในเวลาช่วงเย็น น้ำหมักเปลือกมังคุด ซึ่งสามารถป้องกันเชื้อราในเมล็ดข้าวและพืชผักต่างๆ สาเหตุของโรคข้าวต่างๆได้ดีทีเดียว โดยการใช้เปลือกมังคุด 3 กิโลกรัม กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม สาร พด. 2 จำนวน 1 ซอง และน้ำเปล่าใส่พอท่วม นำส่วนผสมทั้งหมดหมักไว้ในถังหมัก 3 เดือนก็สามารถนำมาใช้ได้ ถ้าเป็นเมล็ดข้าวก็ให้แช่เมล็ดในน้ำหมัก 1 คืน ก็จะเป็นการป้องกันการเกิดเชื้อราได้ ส่วนในพืชผักสวนครัว ก็สามารถตักน้ำหมักเปลือกมังคุดรดในแปลงผัก เพื่อป้องกันโรคต่างๆได้
วิธีทำน้ำหมักผลไม้ (EM) สำหรับใช้ในการทำเกษตร - YouTube